สารบัญ
-
กองทุนรวม
ที่มา :
กองทุนรวมคืออะไร?
กองทุนรวม หรือ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Mutual Fund หมายถึง กระบวนการรวบรวมทรัพย์สินประเภทเงินของนักลงทุนเช่นคุณมาลงทุนตามแต่ละนโยบายของกองทุนรวมเหล่านั้นที่กำหนดไว้นั้นๆ ทั้งนี้กองลงทุนในกองทุนรวมมีผลตอบแทน และมีความเสี่ยงตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงสูง จึงจำเป็นที่จะต้องมีคนที่คอยดูแลการลงทุนของคุณให้เป็นไปตามที่คาดหวังมากที่สุด โดยผู้นั้นได้แก่ ผู้จัดการกองทุน ซึ่งเป็นผู้ที่มีอาชีพช่วยบริหารจัดการงเนภายในกองทุนต่างๆ
หากอธิบายอย่างสั้นๆ กองทุนรวม คือ การลงทุนรูปแบบหนึ่งในรูปแบบของเครื่องมือการลงทุน (Investment Vehicle) สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการนำเงินของตนเองมาลงทุนในตลาดเงินตลาดทุนภายใต้เครื่องมือการลงทุนที่สามารถไว้ใจได้ประมาณนึงว่ามีประสิทธิภาพ อยู่ภายใต้เป้าหมายการลงทุนที่มุ่งเน้นผลตอบแทนที่ดีที่สุด ในขณะที่ยังไม่เกินกว่าความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนรับได้นั่นเอง
โครงสร้างของกองทุนรวม
กองทุนรวม มีโครงสร้างที่สำคัญอยู่ 4 ส่วน ได้แก่ บริษัทจัดการกองทุนรวม หรือ บลจ., การกำกับดูแลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต., ผู้ถือหน่วยลงทุน และหลักทรัพย์ที่ใช้ลงทุน รายละเอียดดังแผนภูมิด้านล่าง
ที่มา :
เมื่อตอนต้นของย่อหน้าได้กล่าวถึง 2 หน่วยงานสำคัญที่มีบทบาทเป็นอย่างมากต่อการลงทุนในกองทุนรวม
เริ่มต้นที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือตัวย่อว่า “บลจ.” นั้นเป็นหน่วยงาน / บริษัทที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่จะกล่าวต่อมาภายหลังอย่างก.ล.ต. ให้ทำหน้าที่ในการบริหารเงินของนักลงทุนในรูปแบบการลงทุนประเภทกองทุนรวม, กองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) รวมไปถึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นบริษัทที่มีบทบาทต่อเงินในกระเป๋าตังค์ของคุณจริงๆ ทั้งนี้หากพิจารณาเลือกบลจ. ของสถาบันทางการเงินแห่งใดแห่งหนึ่งนั้นควรคำนึงถึงความสามารถในการให้คำแนะนำเกี่ยวกับกองทุนรวมนั้นๆ เป็นอย่างดี, มีความเพรียบพร้อมในการให้ข้อมู,ข่าวสารที่แม่นยำ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเพื่อผลประโยชน์ต่อนักลงทุนให้สามารถตัดสินใจเลือกกองทุนรวมที่ได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง และอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่นักลงทุนรายนั้นรับได้, ตอบสนองต่อการเลือกซื้อกองทุนรวมอย่างทันท่วงที และสุดท้ายควรพิจารณาถึงตวามน่าเชื่อถือของบลจ. ตลอดจนฐานะทางการเงินทั้งในปัจจุบัน และย้อนหลังของบลจ. นั้นๆ
หน่วยงานอีกหน่วยงานนึงที่มีความสำคัญต่อการลงทุนประเภทกองทุนรวม ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือตัวย่อว่า “ก.ล.ต.” เป็นหน่วยงาน / องค์กรประภทอิสระ ถูกก่อตั้งมาแล้วกว่า 30 ปี ซึ่งก.ล.ต. มีหน้าที่ในการดูแล และกำกับตลาดทุนทั้งประเภทตลาดทุนที่ออกทรัพย์ใหม่ และตลาดซื้อขายหลักทรัพย์
ประภทของกองทุนรวม
หลังจากที่ทราบว่ากองทุนรวมคืออะไร แล้วนั้นหลายต่อหลายท่านคงเกิดคำถามว่าแล้วกองทุนรวมมีอะไรบ้างสามารถแบ่งออกได้กี่ประเภท
โดยภายในบทความนี้จะกล่าวถึงประเภทของกองทุนรวมที่น่าสนใจตามระดับความเสี่ยง หรือ Risk Spectrum โดยเรียงลำดับประเภทของการทุนจากความเสี่ยงน้อยไปความเสี่ยงมาก ซึ่งมีทั้งกองทุนรวมภายในประเทศ และกองทุนรวมต่างประเทศ รายละเอียดดังนี้
ที่มา :
กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ
เริ่มต้นที่กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดในความเสี่ยงระดับที่ 1 กองทุนรวมความเสี่ยงต่ำที่สุดนี้มีชื่อว่า “กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ” ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่มุ่งเน้นการลงทุนในรูปแบบเงินฝาก ตั๋วเงิน และตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 12 เดือน หรือ 1 ปีนั่นเอง กองทุนรวมประเภทนี้เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ชื่นชอบความเสี่ยง หมายรวมไปถึงนักลงทุนที่ประสงค์จะพักทรัพย์ประเภทเงินในช่วงที่เศรษฐกิจ หรือผลตอบแทนไม่ดี
กองทุนรวมต่างประเทศ
ขยับความเสี่ยงขึ้นมาอีกระดับ เป็นระดับที่ 2 กันบ้าง กองทุนรวมในความเสี่ยงระดับที่ 2 นี้มีชื่อว่า “กองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ” โดยเป็นกองทุนที่เหมือนกับกองทุนรวมในระดบที่ 1 เลยทั้งในด้านการเป็นกองทุนรวมที่มุ่งเน้นการลงทุนในรูปแบบเงินฝาก ตั๋วเงิน และตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 12 เดือน หรือ 1 ปี เพียงแต่กองทุนรวมต่างประเทศ นั้นอาจจะมีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนนั่นเอง ซึ่งมีความเสี่ยงด้านค่าเงินนต่างประเทศ อัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเพิ่มเติมขึ้นมาในระดับที่ 2 นี้ ทั้งนี้กองทุนรวมประเภทนี้จะมีการป้องกันลดความเสี่ยงด้านอัตราการแลกเปลี่ยนไว้สำหรับนักลงทุนทุกท่าน โดยกองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศนั้นเป็นอีกช่องทางหนึ่งของการกระจายเงินทุนของคุณไปยังต่างแดนเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนของนักลงทุนนั่นเอง
หลายท่านอาจเกิดข้อสงสัยในการลงทุนกองทุนรวมในต่างประเทศว่า กองทุนรวมถอนได้ไหม โดยกองทุนรวมตลาดเงินทั้งสองประเภทสามารถถอนได้ตลอดตามแต่นักลงทุน
กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
กองทุนรวมประเภทต่อมาจากความเสี่ยงระดับที่ 2 เป็นความเสี่ยงระดับที่ 3 มีชื่อกองทุนรวมว่า “กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล” ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในรูปแบบของตราสารหนี้ภาครัฐ ตัวอย่างเช่น พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และ/หรือ พันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้กองทุนรวมระดบความเสี่ยงระดับที่ 3 นี้จะต่างจากกองทุนรวม 2 อันดับแรกในด้านของอายุเฉลี่ยที่ต้องมีอายุเฉลี่ยมากกว่า 1 ปีขึ้นไปส่งผลให้เกิดความเสี่ยง และความผันผวนมากกว่ากองทุนรวมตลาดเงินทั้งในประเทศ และกองทุนรวมต่างประเทศ
กองทุนรวมตราสารหนี้
กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงอยู่ในระดับกลางของ Risk Spectrum มีชื่อว่า “กองทุนรวมตราสารหนี้” ซึ่งเป็นรูปแบบของการทุนรวมที่เจาะจงการลงทุนในรูปแบบตราสารหนี้ทั้งของภาครัฐ และตราสารหนี้ภาคเอกชนเป็นสำคัญ ตัวอย่างเช่น พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ, พันธบัตรรัฐบาล, ตั๋วเงินคลัง รวมไปถึงหุ้นกู้จากบริษัท/หน่วยงานเอกชนอีกด้วย กองทุนรวมตราสารหนี้มีให้คุณเลือกลงทุนทั้งแบบระยะสั้น และระยะยาว โดยกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นมีอายุเฉลี่ยไม่ถึงหนึ่งปี ส่วนกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาวมีอายุเฉลี่ยมากกว่า 1 ปีนั่นเอง ดังนั้นแล้วกองทุนรวมตราสารหนี้จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนแบบระยะสั้น และแบบระยะยาว รวมไปถึงนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงระดับปานกลางได้ หมายความไปถึงผู้ลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงมากยิ่งขึ้น และเหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปทั่วพอร์ตการลงทุน โดยจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปแบบของดอกเบี้ย
กองทุนรวมผสม
กองทุนรวมความเสี่ยงระดับที่ 5 ปานกลางค่อนไปทางสูง ได้แก่ “กองทุนรวมผสม” ลักษณะเด่นในการที่คุณสามารถลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลายประกอบด้วยเงินฝาก, ตราสารหนี้ และหุ้นเป็นต้น ทั้งนี้กองทุนรวมผสมนี้มีความเสี่ยงที่ค่อนไปทางสูง ผู้ลงทุนในกองทุนรวมนี้ควรเป็นคนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ และเหมาะกับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านเวลา สำหรับการโยกย้าย ปรับสัดส่วนของสินทรัพย์ในการลงทุน กรณีที่ตลาดมีความผันผวนค่อนข้างสูง
กองทุนรวมตราสารทุน
กองทุนรวมความเสี่ยงระดับ 6 มีชื่อว่า “กองทุนรวมตราสารทุน” เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นมาเนื่องจากการลงทุนในหุ้นภายในตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นจากต่างประเทศ โดยกองทุนรวมนี้ยังครอบคลุมไปถึงกองทุน RMF และSSF อีกด้วย ซึ่งกองทุนรวมตราสารทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงในระดับสูงได้ แต่ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามเช่นกัน หรือคู่ควรแก่ผู้ที่ชื่นชอบการลงทุนในตลาดหุ้น เพียงแต่ผู้นั้นไม่มีเวลาในการศึกษาหุ้น ดูแลหุ้นด้วยตนเอง
หากขยายความกองทุน RMF และกองทุน SSF มีความหมายดังนี้ กองทุน RMF คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่ง RMF ย่อมาจาก Retirement Mutual Fund ซึ่งมีรูปแบบกองทุนรวมที่ช่วยส่งเสริมการให้เกิดการออมเงินไว้ใช้จ่ายเมื่อคุณเกษียณอายุการทำงาน โดยมีรูปแบบ และลักษณะใกล้เคียงกับกองทุนบำเหน็จบำนาญของข้าราชการ และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทเอกชน
ส่วนกองทุน SSF หมายถึง กองทุนรวมเพื่อการออมระยะยาว อีกทั้งยังสามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีให้กับคุณอีกด้วย โดย SSF ย่อมาจาก Super Savings Fund นอกจากนี้รู้หรือไม่ว่า SSF นั้นเป็นกองทุนรวมที่มาแทนที่กองทุนรวมที่หมดอายุไปเมื่อปีพ.ศ. 2562 อย่างกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF นั่นเอง
กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม
มาถึงกองทุนรวมความเสี่ยงระกับสูงอย่างระดับที่ 7 กันบ้างกองทุนรวมนี้ คือ “กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม” ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่ลงทุนให้ตลาดหุ้นในอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น หุ้นสื่อสาร, หุ้นจำพวกโรงพยาบาล และหุ้นกลุ่มธนาคาร เป็นต้น กองทุนรวมประเภทนี้มีความเสี่ยงที่สูงมาก สูงมากกว่ากองทุนรวมตราสารทุนทั่วไป เหตุผลหลักมาจากการลงทุนแบบกระจุกตัวเฉพาะตลาดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม ดังนั้นกองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรมจึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงในระดับสูงได้ และจำเป็นต้องมีพื้นฐานความรู้ และความเข้าใจในอุตสาหกรรมแต่ละประเภทที่ลงทุนเป็นอย่างดี
กองทุนรวมทางเลือก
กองทุนรวมที่มีระดับความเสี่ยงระดับมากที่สุดใน Risk Spectrum ได้แก่ “กองทุนรวมทางเลือก” ซึงเป็นกองทุนรวมที่นักลุนทุนสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์พื้นฐานยก ตัวอย่างเช่น การลงทุนในทองคำ หรือในน้ำมันเป็นต้น ซึ่งมีความผันผวนที่สูงมาก ทั้งนี้กกองทุนรวมทางเลือกเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีความเข้าใจรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ และเพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนในภาพรวมนั่นเอง
กองทุนรวมได้ผลตอบแทนอย่างไร
ที่มา :
กองทุนรวมมีมากมายหลากหลายประเภทให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน เมื่อคุณเป็นนักลงทุนแล้วผลตอบแทนในการลงทุนย่อมเป็นปัจจัยหลักในการเลือกลงทุนกองทุนรวม และเป็นเหตุผลในการตอบคำถามที่ว่าควรเลือกกองทุนรวมอันไหนดีโดยผลตอบแทนจากกองทุนรวม ได้แก่ เงินปันผล, ดอกเบี้ยรับ, หุ้นเพิ่มทุน และกำไร หรือ Capital Gain เมื่อคุณขายหน่วยลงทุนออกจากพอร์ตตอนที่มูลค่าของหน่วยลงทุนสูงกว่ามูลค่าตอนที่คุณซื้อหน่วยลงทุนตอนแรกนั่นเอง
กองทุนรวมธนาคารไหนดี 2566
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว นักลงทุนหลายท่านคงอยากจะเริ่มลงทุนกองทุนรวมกันบ้างแล้ว ต่อจากนี้คุณจะได้รับคำตอบจากคำถามที่ว่ากองทุนรวมธนาคารไหนดี ประจำปีพ.ศ. 2566 หรือปีค.ศ. 2023 นี้
กองทุนรวมธนาคารไหนดี 2566 : กองทุนรวมตลาดเงิน
หากกล่าวถึงตัวอย่าง กองทุนรวมประเภทตลาดเงินที่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนสูงประจำปีพ.ศ. 2566 ได้แก่ กองทุนรวมไทย แคช แมเนจเม้นท์ เอ็นจอย (TCMFENJOY) กองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารนี้ของธนาคาร UOB, กองทุนรวม scb ในรูปแบบตราสารรัฐตลาดเงิน พลัส ชนิดหน่วยลงทุน (E SCBTMFPLUS-E) กองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในตราสารภาครัฐ ตัวอย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงิน พนธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และกองทุนรวมเค บริหารเงิน (K-CASH) จากธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นการลงทุนในตลาดเงินภายในประเทศที่เน้นการลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ตลอดจนพันธบัตรของรัฐบาล และพันธบัตรของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับค้ำประกันจากกระทรวงการคลัง
กองทุนรวมธนาคารไหนดี 2566 : กองทุนรวมตราสารหนี้
เพิ่มความเสี่ยงมายังระดับกลางกันบ้างกับตัวอย่าง กองทุนรวมประเภทตราสารหนี้ที่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนสูงประจำปีค.ศ. 2023 ได้แก่ กองทุนจากธนาคารกรุงศรีอย่างกองทุนรวมกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้ (KFAFIX) ซึ่งเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ หมายรวมถึงเงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝากทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ, กองทุนรวมเคเอ คอร์เปอเรื บอนด์ (KACB) ซึ่งออกโดยธนาคารกสิกรไทยเพื่อให้นักลงทุนสามารถลงทุนในตราสารหนี้เงินฝาก หรือตราสารเที่ยบเท่าเงินฝาก ตราสารหนี้ภาคเอกชนได้ในสัดส่วนที่รวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินกองทุนรวมนั่นเอง และตัวอย่างสุดท้ายมาจาก
บลจ.อย่าง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ออกกองทุนเอ็มเอฟซี 3 ปี ทวิสุข 1 (MT3Y1) ให้ผู้ลทุนสามารถลงทุนในตราสารหนี้ทั้งของภาครัฐบาล และเอกชน
กองทุนรวมธนาคารไหนดี 2566 : กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF
เมื่อมองถึงอนาคตของคุณในวัยเกษียณจากการทำงาน การวางแผนเพื่ออนาคตในการเลี้ยงชีพเป็นเรื่องที่จำเป็น และสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยตัวอย่างกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF ที่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนสูงประจำปีพ.ศ. 2566 ได้แก่ กองทุนรวม China Opportunity เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMBCORMF) จากธนาคารทหารไทย (TMB) โดยเป็นกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียวเท่านั้น (Master Fund) ซึ่งก็ตือ กองทุน UBS (Lux) Equity Fund-China Opportunity (USD) ในหน่วยลงทุนชนิด Class I-A1-acc, กองทุนรวมจากธนาคารกสิกรไทยอย่างกองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ ประเภทหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือตัวย่อ KGHRMF โดยกองทุนรวมนี้เป็นการลงทุนในหน่วยลงทุนภายใต้กองทุน JPMorgan Funds – Global Healthcare Fund, ในระดับคลาส A (acc) – USD และตัวอย่างสุดท้ายของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ เพื่อการเลี้ยงชีพจากหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมกรุงไทย หรือตัวย่อ KT-GEALTHC RMF ซึ่งเน้นการลงทุนมนหน่วยลงทุนเฉพะของกองทุน Janus Global Life Sciences Fund (Master Fund)
ข้อควรพิจารณาก่อนการซื้อกองทุนรวม
ที่มา :
เมื่อทราบถึงกองทุนรวมที่น่าสนใจเนื่องจากมีแนวโน้มผลตอบแทนที่ดี คุณคงอยากจะทราบว่าการซื้อกองทุนนั้นมีวิธีการอย่างไร แต่ก่อนที่จะไปทราบถึงขั้นตอนการซื้อนั้นการรู้ข้อควรพิจารณาก่อนการเลือกกองทุนก่อนตัดสินใจซื้อกองทุนรวมก็สำคัญไม่แพ้ โดยมีด้วยกัน 5 ข้อดังนี้
- ทำการสำรวจตัวคุณเองเสียก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อกองทุนรวม โดยให้ถามตัวเองว่าต้องการลงทุนในกองทุนรวมประเภทใด ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับไหน
- ศึกษารายละเอียดของกองทุนรวมอย่างละเอียดผ่าน Fund Fact Sheet เสมอ โดย Fund Fact Sheet ที่กล่าวมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยตัดสินใจซื้อกองทุนรวมเนื่องจากภายในชีทประกอบด้วย ประเภทของกองทุนรวมนั้นๆ, ขนาดกองทุนรวม, ขั้นต่ำในการซื้อกองทุนรวม, การปันผล (ถ้ามี) และค่าธรรมเนียม เป็นต้น
- พิจารณาถึงผลตอบแทนที่สม่ำเสมอเป็นสำคัญ
- วัดความเสี่ยงเบื้องต้นจากค่า Standard Deviation (S.D.) โดยสามารถอ่านค่านี้ได้ยิ่งค่า S.D. สูง แปลว่ากองทุนรวมนั้นยิ่งเสี่ยง
- จัดตารางเวลาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบ และติดตามผลอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน หรือทุกๆ 1 ปีก็ได้ เพื่อให้กองทุนรวมที่คุณตัดสินใจเลือกซื้อไปนั้นยังอยู่ในเป้าหมายของคุณอยู่
การซื้อกองทุนรวม
การซื้อกองทุนรวมมีวิธีการที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับกองทุนรวมของแต่ละธนาคารได้ประมาณ 6 ขั้นตอน หรือวิธีด้วยกัน ประกอบด้วย
- กรอกใบคำขอใช้บริการกองทุน (Application Form)
- เตรียมเอกสารสำหรับการซื้อกองทุนรวม โดยแบ่งเป็นสำหรับบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล
2.1 เอกสารสำหรับบุคคลธรรมดา ประกอบด้วย สำเนาเอกสารแสดงตน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี, สำเนาสมุดบัญชีธนาคารประเภทออมทรัพย์ และเอกสารอื่นๆ แล้วแต่ละธนาคาร
2.2 เอกสารสำหรับนิติบุคคล ประกอบด้วย หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล, หนังสือบริคณห์สนธิ, รายงานการประชุมคณะกรรมการบริษัท, สำเนาเอกสารแสดงตนของกรรมการบริษัท, สำเนาเอกสารแสดงตนของผู้ที่ถือหุ้นร้อยละ 25 ขึ้นไป, สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือบอจ.5, หนังสือมอบอำนาจ, สำเนาสมุดบัญชีธนาคารประเภทออมทรัพย์ และเอกสารอื่นๆ แล้วแต่ละธนาคาร - ศึกษารายละเอียดของกองทุนจาก Fund Fact Sheet หรือ หนังสือชี้ชวนการลงทุน
- กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อหน่วยลงทุน (Purchase Order) ประอกบกับแสดงสำเนาเอกสารแสดงตน
- สั่งซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมจากการชำระด้วยเงินสด, การชำระผ่านการโอน, การชำระด้วยแคชเชียร์เช็ค, บัตรเครดิต เป็นต้น
- เมื่อชำระแล้ว คุณจะได้รับหนังสือรับรองสิทธิ์ในหน่วยลงทุนนั้นๆ (Fund Book)
เทคนิคการเลือกกองทุนรวม
สุดท้ายนี้การเลือกกองทุนรวมที่น่าสนใจมีเทคนิคด้วยกัน 3 เทคนิคเรียกว่าเทคนิค S-R-F โดยที่ S ย่อมาจาก Style หมายความถึงการเลือกกองทุนที่ใช่สำหรับนิสัยการลงทุนของคุณ ตามสไตล์ของคุณ, R ย่อมาจาก Return ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอตามเป้าหมายการลงทุน และตัวสุดท้าย F ย่อมาจาก Free หมายถึงกองทุนรวมที่มีต้นทุนค่าธรรมเนียมกองทุนต่ำ เปรียบได้กับการฟรีค่าธรรมเนียมนั่นเอง
อ้างอิง
https://bkklovehoro.com/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1-%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5-2563-%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1-%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87-2020/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99/